1. (กดสั่งครั้งละ 1 ลังยกลัง*16ขวด) โซลิโต้ - เพรทิลาคลอร์ + ไพริเบนซอกซิม ขนาด 1 ลิตร ออกฤทธิ์ทั้งคุมและฆ่าหญ้าในขวดเดียว
โซลิโต้ สารป้องกันและกําจัดวัชพืชในนาข้าว
ชื่อสามัญ : เพรทิลาคลอร์ (pretilachlor) ไพริเบนซอกซิม (pyribenzoxim)
กลุ่มสารเคมี : กลุ่ม K3 B สารกําจัดวัชพืช จุดเด่น โซลิโต้ โซลิโต้ ออกฤทธิ์ทั้งคุมและฆ่าหญ้าในขวดเดียว กําจัดวัชพืชได้หลากชนิดในขวดเดียว ทั้งใบแคบ ใบกว้างและกกชนิดต่างๆ โซลิโต้ ออกฤทธิ์ 2 ทิศทาง ใต้ดินด้วยการเคลือบผิวดินและซึมเข้าคุมเมล็ดวัชพืชไม่ให้งอก เหนือดินโดยออกฤทธิ์แบบสัมผัสการจัดวัชพืชหลังงอกโดยตรง หญ้าตายภายใน 2-3 วัน โซลิโต้ ปลอดภัยต่อข้าว ข้าวไม่แดง ไม่งัน ระยะปลอดฝนสั้น สามารถหล่อน้ําได้เร็ว น้ําท่วมยอดข้าวได้ โซลิโต้เหมาะกับข้าว แนะนําใช้หลังวัชพืชงอก (post-emergence) ในข้าวนาหว่านน้ําตม เพื่อกําจัดวัชพืช วัชพืชประเภทใบแคบ เช่น หญ้าข้าวนก และหญ้านกสีชมพู วัชพืชประเภทใบกว้าง เช่น ผักปอดนา และวัชพืชประเภทกก เช่น แห้วหมูนา
อัตราการใช้ : ใช้โซลิโต้ 160-200 มิลลิลิตร ผสมน้ํา 60-80 ลิตร พ่นบนพื้นที่ 1 ไร่ หรือ
อัตรา: อัตรา 40-50 มิลลิลิตร ผสมน้ํา 15-20 ลิตร พ่นบนพื้นที่ 1 งาน
วิธีการ : พ่นบนพื้นที่ 1 งาน หลังหว่านข้าว 6-10 วัน ก่อนพ่นสารให้ระบายน้ําออกและทดน้ําเข้านาหลังพ่นสาร 2-3 วัน โซลิโต้ ประกอบด้วยสาร ไพริเบนโซซิม และ เพรทิลาคลอร์ สารคุมและฆ่าวัชพืช ก่อนและหลังวัชพืชงอก ในนาข้าว ใช้ฉีดพ่นในนาข้าวช่วงอายุ 7-10 วันหลังหว่าน
วิธีเก็บรักษา : ต้องเก็บ โซลิโต้ ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ําดื่ม สัตว์เลี้ยงและเปลวไฟ
คําเตือน : โซลิโต้ เป็นวัตถุอันตรายต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันมิให้เป็นอัตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้ : 1 ห้าม ดื่มน้ํา กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ในขณะปฏิบัติงาน ห้าม คนและนําสัตว์เข้าไปในบริเวณที่พ่นสารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ห้าม เทสารที่เหลือ หรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ํา ลําคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้สารฯ หมดแล้ว ห้าม ใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุ หรือนํากลับไปใช้อีก ห้าม เด็ก และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่กําลังพ่นสาร 2 ขณะผสม ต้อง สวมถุงมือยาง และหน้ากากเพื่อป้องกันมิให้สารเข้มข้นถูกผิวหนัง และกระเด็นเข้าตา การผสมให้ใช้ ไม้กวน ขณะพ่นสาร ต้อง อยู่เหนือลมเสมอ และควรสวมถุงมือยาง และหน้ากาก ต้อง ล้างมือ และหน้าให้สะอาดด้วย สบู่ และน้ําก่อนกินอาหาร ดื่มน้ํา หรือสูบบุหรี่ หลังจากทํางานเสร็จแล้ว ต้อง อาบน้ํา สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าและซักชุดที่สวมทํางานให้สะอาด ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้วให้กลั้ว ล้างด้วยน้ํา 3 ครั้ง และรวมเอาน้ําล้างไปใช้ผสมพ่นสาร กําจัดภาชนะบรรจุโดยทําลายแล้วฝังดิน หรือรวมทิ้งให้ปลอดภัย 3 ระวัง อย่าให้เข้าปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนัง และเสื้อผ้า 4 การใช้สารกําจัดวัชพืช ซึ่งอยู่ในอักษรกลุ่มเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดความต้านทานของวัชพืช 5 อาจทําให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง 6 เป็นพิษต่อปลาต้องระวังการชะล้างลงสู่แหล่งน้ํา
อาการเกิดพิษ : 1 อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และดวงตา อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังจากการสัมผัส อาจเป็นอันตรายต่อปอดหากกลืนกิน
การแก้พิษเบื้องต้น : 1 ถ้าเกิดอาการเป็นพิษเนื่องจากการสูดดม รีบนําผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ใช้ และให้พักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์ 2 ถ้าเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ําสะอาดจํานวนมากนาน 15 นาที หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์ 3 ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ําจนสะอาด ถ้าเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบอาบน้ํา